Latest Articles

ลาก่อนรอยสิว! เผยวิธีจัดการปัญหารอยสิวให้หายสนิท

ลาก่อนรอยสิว

รอยสิว เป็นปัญหาที่ใครหลายคนต้องเผชิญ แม้สิวจะหายแล้ว แต่ก็ยังทิ้งรอยเอาไว้กวนใจเรา ทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียน และอาจทำให้เกิดความไม่มั่นใจในใครหลาย ๆ คน 

ทุกคนอาจจะมองว่า การดูแลรักษารอยสิวเป็นเรื่องที่ยากและต้องอดทน ดังนั้นในบทความนี้ เราจะมาเข้าใจรอยสิวมากยิ่งขึ้น และมาทำความรู้จักสาเหตุ การป้องกัน การใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ สำหรับการลดรอยสิว เพื่อผิวหน้าของเรากันดีกว่า

ชนิดของรอยสิว

ว่าด้วยเรื่องรอยสิว รอยสิวมีทั้งหมด 2 ประเภทหลัก ๆ โดยประเภทของรอยสิวที่เกิดขึ้น ขึ้นอยู่กับกระบวนการการสมานผิวของร่างกาย ซึ่งมีคอลลาเจนเป็นส่วนสำคัญ

  • รอยสิวลักษณะเป็นหลุม (depressed acne scar) เกิดจากการสร้างคอลลาเจนที่ผิวหนังน้อยเกินไป
  • รอยสิวแบบนูน (raised acne scar) เกิดจากการสร้างคอลลาเจนที่ผิวหนังมากเกินไป มักเกิดในคนผิวเข้มมากกว่า

ส่วนรอยดำหรือรอยแดงที่เกิดขึ้นเมื่อสิวหาย ซึ่งมีลักษณะแบนราบไปกับผิว เกิดจากการสร้างเม็ดสีที่มากเกินไปภายหลังจากการเกิดการอักเสบ

สาเหตุของรอยสิว

สาเหตุหลักของรอยสิวคือ “การอักเสบ” นั่นเอง โดยรอยสิวมีโอกาสเกิดขึ้นเมื่อ

  • สิวอักเสบที่มีความลึก เจ็บ เพราะสิวชนิดนี้ทำให้เกิดการอักเสบที่ผิวหนัง
  • การบีบ แกะสิวด้วยตัวเอง จะทำให้เกิดการอักเสบเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดรอยสิวได้

สารที่มีคุณสมบัติรักษารอยสิว

ปัจจุบันสกินเเคร์มีมากมายและหลากหลาย แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าสกินแคร์ตัวไหนมีส่วนช่วยในการลดรอยสิว เราได้สรุปสารในสกินแคร์ไว้ให้แล้ว

  • niacinamide (วิตามิน B3) – มีคุณสมบัติต้านอักเสบ ลดรอยดำ รอยแดง 
  • Retinol – มีคุณสมบัติผลัดเซลล์ผิว ล้างเซลล์ที่ตายแล้วออกไป ลดการอุดตัน และเนื่องจากมีคุณสมบัติในการซึมเข้าสู่ชั้นผิวหนังที่ค่อนข้างลึก จึงช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
  • AHA, BHA,  – มีคุณสมบัติผลัดเซลล์ผิว ล้างเซลล์ที่ตายแล้วออกไป ลดการอุดตัน
  • peptide, ceramide, วิตามิน C – มีคุณสมบัติกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และการซ่อมแซมผิวหนัง 
  • tea tree oil – คุณสมบัติต้านอักเสบ ลดรอยดำ รอยแดง และยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อ
  • Dragon blood – มีคุณสมบัติต้านอักเสบ, กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน การสมานแผล ต้านอนุมูลอิสระ
  • Silicone gel – ช่วยลดรอยสิวและรอยดำ ทำให้รอยสิวดูเรียบเนียนขึ้น

แล้วเราจะใช้สกินเเคร์ฟื้นฟูรอยสิวตัวไหนดี? ทางเราขอเเนะนำสกินเเคร์เหล่านี้ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติที่จะช่วยให้รอยสิวจาง ผิวหน้าเรียบเนียน กลับมามั่นใจอีกครั้ง !!

Puricas Dragon’s Blood Scar Gel

Puricas Dragon’s Blood Scar Gelผสานพลังของสารสกัดจากดราก้อนบลัดและหัวหอม (Allium Cepa Extract)  ช่วย สมานแผล และ ลดรอยแดงจากสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ รอยสิวรู้สึกจางลงใน 2 สัปดาห์ 

Dermatix acne scar

Dermatix Acne Scar ครีมลดรอยสิว รอยแดง จุดด่างดำ ให้ผิวเนียนใส ด้วยเทคโนโลยี CPX และ ActivGCS ผสาน วิตามิน E, ไนอาซินาไมด์ และสังกะสี ช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นจากสิว ให้ผิวเรียบเนียนกระจ่างใส

Hiruscar Post Acne

เจลใสซึมซาบเร็ว ลดรอยสิวทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น รอยสิว หลุม รอยดำ รอยอักเสบแดง และยังช่วยลดสาเหตุการเกิดสิวใหม่ ด้วยสูตรประสิทธิภาพเฉพาะของ MPS และ Allium Cepa ผสานกับสารสกัดจากธรรมชาติ ปราศจากแอลกอฮอล์ บอกลาสิวและรอยสิว ผิวกลับมาเรียบเนียน

การใช้ยา

นอกจากเรื่องสกินแคร์แล้ว เรามาพูดถึงยาบ้างดีกว่า ยาที่ใช้สำหรับการรักษารอยสิว เช่น ยาครีมที่มีส่วนผสมของ retinoid เช่น tretinoin, adapalene หรือมีส่วนผสมของ salicylic acid, azelaic acid ซึ่งยาเหล่านี้มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิว แต่เนื่องจากสารเหล่านี้ถูกใช้เป็นยา ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินก่อนใช้

การรักษาอื่น ๆ

ปัจจุบัน เทคโนโลยีความงามต่าง ๆ ก็มีเยอะแยะมากมายและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เทคโนโลยีการรักษารอยสิว เช่น การฉีด Filler, การทำ Laser, การทำ Microneedling  แต่ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นนะ

การป้องกันรอยสิว

ไม่อยากมีรอยสิวแล้ว ทำอย่างไรดี? เราสามารถเริ่มต้นจากการป้องกันได้โดย

1. ยิ่งรักษาสิวไวและถูกวิธี ยิ่งมีโอกาสเกิดรอยสิวน้อยลง การปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรนับเป็นวิธีการที่ดีในการที่จะเริ่มต้นการรักษาสิวนะ

2. หลีกเลี่ยงการจับ แกะ บีบสิว เนื่องจากจะทำให้เกิดการอักเสบมากยิงขึ้น และมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อและทิ้งรอยดำ

3. ทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันแสงแดดจากการกระตุ้นการสร้างเม็ดสี ทำให้เกิดรอยดำ รอยเเดงมากขึ้น


Medcare พร้อมให้บริการช่วยให้คุณได้ ปรึกษากับเภสัชกรมืออาชีพผ่าน LINE Mini App เเละจัดหาตัวแทนไปรับยาร้านขายยามาตรฐานเพื่อนำไปส่งให้ที่บ้านของคุณได้อย่างสะดวก ปลอดภัย ไร้กังวล

คลิกเพื่อใช้บริการ >> MedCare ปรึกษาเภสัชกรทันที รับยาดีทันใจ

เอกสารอ้างอิง :