ทำไมหลังคลอดคุณแม่บางรายถึงน้ำหนักขึ้น ซึมเศร้า และรู้สึกเครียดอยู่เป็นระยะๆ ทำความรู้จักภาวะและความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้หลังคลอดบุตร เพื่อให้คุณแม่และคุณพ่อสามารถเตรียมความพร้อมได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และรับมืออาการเหล่านี้ได้อย่างตรงจุด พร้อมแนวทางการดูแลตนเอง ให้คุณแม่กลับมาสุขภาพดีหุ่นสวยดูแข็งแรง และลูกน้อยเติบโตได้อย่างสมวัย
การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นหลังคลอด
เนื่องจากการตั้งครรภ์จะส่งผลให้ร่างกายเกิดความเปลี่ยนแปลงต่างๆ มากมาย ทั้งในแง่ของระดับฮอร์โมนและการแบ่งปันสารอาหารไปยังอีกหนึ่งชีวิตในครรภ์ ดังนั้นเมื่อคลอดบุตรออกมาแล้วร่างกายของคุณแม่ก็ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอีกครั้ง โดยอาจมีภาวะอาการที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับคุณแม่แต่ละราย โดยส่วนมากมักจะมีความเปลี่ยนแปลงดังต่อไปนี้
1. ความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนหลังคลอด
หลังคลอดบุตรฮอร์โมนบางตัวในร่างกายของคุณแม่ก็จะเริ่มเปลี่ยนระดับอีกครั้ง โดยการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนนั้นจะส่งผลต่อสุขภาพจิตใจและสุขภาพร่างกายของคุณแม่โดยตรง ตัวอย่างเช่น
- ฮอร์โมนโปรแลกตินเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ร่างกายของคุณแม่พร้อมในการให้นมบุตร และยังเป็นฮอร์โมนที่ช่วยดึงสัญชาตญาณความเป็นแม่ออกมา ทำให้คุณแม่เกิดความรักและมีความสุขในการดูแลลูกน้อย
- ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดน้อยลง เนื่องจากคุณแม่อยู่ในระยะให้นมลูกจึงไม่มีการตกไข่ ส่งผลให้ผนังช่องคลอดแห้ง ทำให้มีโอกาสเจ็บมากขึ้นเมื่อมีเพศสัมพันธ์ จึงทำให้คุณแม่ส่วนใหญ่มักไม่มีความสุขในการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้
- ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนลดน้อยลง เนื่องจากไม่มีการตกไข่ ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้ส่งผลให้คุณแม่มีความสุขและอารมณ์ดี เมื่อมีปริมาณน้อยลงก็จะทำให้คุณแม่มีความสุขลดน้อยลงและอาจส่งผลให้เกิดภาวะซึมเศร้าหลังคลอดบุตรต่อไปได้
การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของฮอร์โมนเหล่านี้จะเกิดขึ้นเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น โดยเมื่อผ่านไปราวๆ 6 สัปดาห์ระดับฮอร์โมนแต่ละตัวก็จะกลับสู่สภาวะปกติ ทำให้คุณแม่กลับมาอารมณ์ดีและสุขภาพดีดังเดิม
2. ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดบุตร
ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดบุตรเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนโดยตรง เนื่องจากในขณะตั้งครรภ์คุณแม่จะมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสูงมาก เมื่อฮอร์โมนทั้ง 2 ชนิดนี้ลดระดับลงอย่างรวดเร็วจึงส่งผลให้คุณแม่อาจเกิดภาวะซึมเศร้า และมองโลกในแง่ร้ายได้ โดยภาวะนี้จะถูกเรียกว่าเป็นภาวะ baby blue
ในคุณแม่บางรายที่ไวต่อความรู้สึกอยู่แล้ว หรือมีประสบการณ์ที่ไม่ดีในชีวิตก็จะเกิดภาวะซึมเศร้าได้ง่ายและอาจจะรุนแรงกว่าซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการทำร้ายตัวเองขึ้นได้ ดังนั้นจึงควรดูแลและติดตามอาการของคุณแม่อย่างใกล้ชิดและปฏิบัติตามแนวทางดูแลตนเองหลังคลอด เพื่อบรรเทาอาการซึมเศร้าให้ลดน้อยลง
สำหรับอาการซึมเศร้าหลังคลอดบุตรนี้ไม่จำเป็นต้องทำการรักษาเป็นพิเศษ เพราะจะหายได้เองเมื่อระดับฮอร์โมนกลับสู่สภาวะปกตินั่นคือราวๆ 6 สัปดาห์ โดยคุณแม่จะมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับและหายเองได้ในที่สุด
3. การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายหลังคลอด
การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายหลังคลอดที่เกิดกับคุณแม่อาจเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น
- ผมร่วงจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หายเองได้ในระยะเวลา 4 เดือน
- ผื่นแพ้จากระดับฮอร์โมนที่ไม่สมดุล ทำให้ภูมิคุ้มกันแย่ลงและผิวหนังแห้งจึงเกิดผื่นแพ้ขึ้นได้ง่ายกว่าปกติ
- ผิวคล้ำขึ้นจากระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่สูงขณะตั้งครรภ์ ซึ่งส่งผลให้เมลานินหรือเม็ดสีทำงานได้ดี จึงมีผิวคล้ำขึ้น ดังนั้นหลังคลอดเมื่อเวลาผ่านไปสีผิวของคุณแม่ก็จะกลับไปเหมือนเดิมตามระดับฮอร์โมนที่กลับสู่สภาวะปกติ
- รูปร่างใหญ่ขึ้นหรืออวบขึ้นจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่สูงขณะตั้งครรภ์ ทำให้มีไขมันสะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกายมากขึ้น รวมไปถึงมีอาการบวมน้ำจากระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่สูงทำให้ร่างกายของคุณแม่ใหญ่ขึ้นและมีน้ำหนักมากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายเหล่านี้จะค่อยๆ หายไปเองเมื่อระดับฮอร์โมนกลับสู่สภาวะปกติ แต่รูปร่างที่ใหญ่ขึ้นหลังคลอดอาจจะต้องใช้ตัวช่วยที่มากกว่านั้น เพราะไขมันที่สะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกายไม่สามารถหายได้เองง่ายๆ จึงต้องมีแนวทางการดูแลตนเองหลังคลอดที่จะช่วยให้คุณแม่กลับมาสุขภาพดีและรูปร่างเหมาะสมเหมือนช่วงก่อนตั้งครรภ์
แนวทางการดูแลตนเองหลังคลอด
แนวทางการดูแลตนเองหลังคลอดสามารถทำได้ด้วยวิธีการต่อไปนี้
รับประทานอาหารให้หลากหลายและเพียงพอ
คุณแม่ควรเลือกรับประทานอาหารที่หลากหลาย ครบ 5 หมู่ และเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อให้สามารถสร้างน้ำนมให้ลูกได้อย่างเหมาะสม และควรเลือกรับประทานอาหารที่มีกากใยสูงและดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ระบบต่างๆ ในร่างกายโดยเฉพาะระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างเป็นปกติอีกด้วย
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอสำคัญมากสำหรับคุณแม่มือใหม่ เนื่องจากคุณแม่จะมีไขมันสะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกายมากขึ้น และยังมีกล้ามเนื้อหน้าท้องที่ขยายยืดออกมาขณะตั้งครรภ์ ดังนั้นจึงควรออกกำลังกายเพื่อกำจัดไขมันส่วนเกินและปรับหน้าท้องให้หดตัวกลับสู่สภาวะปกติ
ใช้ปากกาลดน้ำหนักเป็นตัวช่วย
การใช้ปากกาลดน้ำหนักเป็นตัวช่วยสมัยใหม่ที่มีส่วนช่วยคุณแม่หลังคลอดได้ดีมาก เพราะมีความปลอดภัยสูง ใช้งานง่ายเพียงฉีดวันละครั้งก็เพียงพอ โดยปากกาลดน้ำหนักจะช่วยควบคุมพฤติกรรมการรับประทานอาหารของคุณแม่ได้อย่างเหมาะสม ทำให้คุณแม่ไม่เพิ่มไขมันส่วนเกินเข้าไปสะสมในร่างกายมากขึ้น จึงสามารถลดไขมันได้ และยังได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
อยากลองใช้ปากกาลดน้ำหนัก? ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการดูแลตนเอง?
สามารถกดสั่งซื้อได้ที่ https://rb.gy/y62ype
Medcare พร้อมให้บริการช่วยให้คุณได้ปรึกษากับเภสัชกรมืออาชีพผ่าน LINE Mini App เเละจัดหาตัวแทนไปรับยาร้านขายยามาตรฐานเพื่อนำไปส่งให้ที่บ้านของคุณได้อย่างสะดวก ปลอดภัย ไร้กังวล
คลิกเพื่อใช้บริการ >> MedCare ปรึกษาเภสัชกรทันที รับยาดีทันใจ