Latest Articles

วิธีกินยาคุม 21 และ 28 เม็ดแผงที่ 2 อย่างปลอดภัย

วิธีกินยาคุม-21-และ-28-เม็ดแผงที่-2

การคุมกำเนิดด้วยยาเม็ดคุมกำเนิดเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงถึง 90% หากใช้อย่างถูกวิธี แต่หลายคนยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับวิธีการกินยาคุมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อต้องเริ่มแผงที่ 2 ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่หากทำผิดพลาดอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ บทความนี้จะแนะนำวิธีกินยาคุม 21 เม็ดและ 28 เม็ดแผงที่ 2 อย่างเช่น ยาคุมเมอซิลอน อย่างถูกต้องและปลอดภัย โดยคำแนะนำจากเภสัชกรจากร้านยาออนไลน์ เพื่อให้ผู้ใช้มีความมั่นใจและได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้ยาคุมกำเนิด

รู้จักยาคุมกำเนิดแผงที่-2

รู้จักยาคุมกำเนิดแผงที่ 2

ยาคุมกำเนิดแผงที่ 2 คือการใช้ยาคุมกำเนิดอย่างต่อเนื่องหลังจากใช้แผงแรกหมดแล้ว การใช้ยาคุมอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาระดับฮอร์โมนให้คงที่ ซึ่งจะช่วยให้การป้องกันการตั้งครรภ์มีประสิทธิภาพสูงสุด การใช้ยาคุมอย่างไม่ต่อเนื่องหรือไม่ถูกวิธีอาจทำให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ลดลง และอาจเกิดผลข้างเคียงต่างๆ ได้ ดังนั้นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ยาคุมแผงที่ 2 จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

ทำไมต้องรู้จักวิธีกินยาคุมแผงที่ 2

การรู้จักวิธีกินยาคุมกำเนิดแผงที่ 2 แตกต่างจากการวิธีกินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด เนื่องจากเป็นการกินอย่างต่อเนื่องมีความสำคัญซึ่งการกินแผงที่ 2 จะเป็นตัวช่วยในการคุมกำเนิดระยะยาว เนื่องจากแผงแรกเป็นเพียงการเริ่มต้นใช้ยาเพื่อปรับระดับฮอร์โมนในร่างกาย การใช้ยาคุมอย่างต่อเนื่องจะช่วยรักษาระดับฮอร์โมนให้คงที่ ซึ่งจะทำให้การป้องกันการตั้งครรภ์มีประสิทธิภาพสูงถึง 99% หากใช้อย่างถูกวิธี 

การกินยาคุมแผงที่ 2 อย่างต่อเนื่องไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์เท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์อื่นๆ เช่น ช่วยควบคุมรอบเดือนให้มาเป็นปกติ ลดอาการปวดประจำเดือน บรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS) ลดการเกิดสิว และลดความเสี่ยงของมะเร็งรังไข่และมะเร็งมดลูกอีกด้วย

หลักการทำงานของยาคุมกำเนิด

ยาเม็ดคุมกำเนิดทำงานโดยการควบคุมระดับฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งมีกลไกหลักในการป้องกันการตั้งครรภ์ 3 ประการ ได้แก่

  1. ยับยั้งการตกไข่ โดยยาคุมจะมีฮอร์โมนที่ทำให้ร่างกายไม่มีการตกไข่ ซึ่งเป็นกลไกหลักในการป้องกันการตั้งครรภ์ หากไม่มีไข่ ก็จะไม่มีการปฏิสนธิและตั้งครรภ์
  2. เปลี่ยนแปลงมูกบริเวณปากมดลูก ทำให้มูกมีความเหนียวและข้นมากขึ้น ทำให้อสุจิไม่สามารถผ่านเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้
  3. ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่เหมาะสมต่อการฝังตัวของตัวอ่อน แม้ว่าจะมีการปฏิสนธิเกิดขึ้น ก็จะไม่สามารถฝังตัวในโพรงมดลูกได้

ยาคุมกำเนิดที่มีใช้กันทั่วไปมี 2 ชนิด คือ ชนิดฮอร์โมนรวม (Combined Pills) ซึ่งมีฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน และชนิดฮอร์โมนเดี่ยว (Progestin-only Pills) ซึ่งมีเฉพาะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน โดยชนิดฮอร์โมนรวมเป็นที่นิยมใช้มากกว่าเนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงและมีผลข้างเคียงน้อยกว่า

ความแตกต่างระหว่างยาคุม 21 และ 28 เม็ด

ยาคุม 21 เม็ดและยาคุม 28 เม็ดมีความแตกต่างกันในแง่ของจำนวนเม็ดยาในแต่ละแผงและวิธีการใช้ ทำความเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้ยาคุมชนิดที่เหมาะสมกับตนเองได้

ยาคุม 21 เม็ด:

  • ประกอบด้วยเม็ดยาที่มีฮอร์โมนทั้งหมด 21 เม็ด
  • หลังจากกินยาครบ 21 เม็ด จะหยุดกินยา 7 วัน
  • ในช่วงที่หยุดกินยา 7 วัน จะมีประจำเดือนมา
  • เริ่มกินยาแผงใหม่ในวันที่ 8 หลังจากกินยาแผงเดิมหมด

ยาคุม 28 เม็ด:

  • ประกอบด้วยเม็ดยาที่มีฮอร์โมน 21 เม็ด และยาหลอก (ไม่มีฮอร์โมน) 7 เม็ด
  • กินยาต่อเนื่องทุกวันโดยไม่มีการหยุดพัก
  • ประจำเดือนจะมาในช่วงที่กินยาหลอก
  • เมื่อกินยาหมดแผง ให้เริ่มกินยาแผงใหม่ในวันถัดไปทันที

ข้อดีของยาคุม 28 เม็ดคือผู้ใช้ไม่ต้องจำว่าเมื่อไหร่ควรเริ่มกินยาแผงใหม่ เพราะสามารถกินยาต่อเนื่องได้ทุกวัน แต่ข้อเสียคือราคาอาจสูงกว่ายาคุม 21 เม็ด ส่วนข้อดีของยาคุม 21 เม็ดคือราคาถูกกว่า แต่ผู้ใช้ต้องจำว่าเมื่อไหร่ควรเริ่มกินยาแผงใหม่หลังจากหยุดพัก 7 วัน

วิธีกินยาคุมแผงที่ 2 อย่างถูกต้อง

วิธีกินยาคุมแผงที่ 2 และแผงต่อๆ ไปอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาประสิทธิภาพของยาในการป้องกันการตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการกินยาคุม 21 เม็ดหรือยาคุม 28 เม็ด แผงที่ 2 ซึ่งทั้งสองชนิดมีวิธีการใช้ที่แตกต่างกัน ผู้ใช้ควรทำความเข้าใจวิธีการใช้ยาให้ถูกต้องเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง

วิธีกินยาคุม 21 เม็ดแผงที่ 2

สำหรับยาคุม 21 เม็ด หลังจากกินยาแผงแรกครบ 21 เม็ดแล้ว ให้หยุดกินยาเป็นเวลา 7 วัน ในช่วงนี้จะมีประจำเดือนมา หลังจากหยุดกินยาครบ 7 วัน ให้เริ่มกินยาคุมแผงที่ 2 ในวันที่ 8 ทันที โดยไม่คำนึงว่าประจำเดือนจะหมดหรือไม่

วิธีกินยาคุม 21 เม็ดแผงที่ 2:

  1. หลังจากกินยาแผงแรกครบ 21 เม็ด ให้หยุดกินยา 7 วัน
  2. ในช่วงที่หยุดกินยา 7 วัน จะมีประจำเดือนมา
  3. เริ่มกินยาแผงที่ 2 ในวันที่ 8 หลังจากกินยาเม็ดสุดท้ายของแผงแรก
  4. กินยาแผงที่ 2 วันละ 1 เม็ด ตามลูกศรที่ระบุบนแผงยา
  5. กินยาทุกวันในเวลาเดียวกัน

ข้อควรระวังคือ ไม่ควรหยุดกินยานานเกิน 7 วัน เพราะจะทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายลดลง และอาจลดประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ หากหยุดกินยานานเกิน 7 วัน ควรใช้วิธีคุมกำเนิดแบบอื่นเสริม เช่น ถุงยางอนามัย เป็นเวลา 7 วันหลังจากเริ่มกินยาแผงใหม่

วิธีกินยาคุม 28 เม็ดแผงที่ 2

สำหรับวิธีกินยาคุม 28 เม็ด แผงที่ 2 หลังจากกินยาแผงแรกครบ 28 เม็ดแล้ว ให้เริ่มกินยาคุมแผงที่ 2 ในวันถัดไปทันที โดยไม่มีการหยุดพัก ซึ่งง่ายและสะดวกกว่าการใช้ยาคุม 21 เม็ด เนื่องจากไม่ต้องคำนวณวันเริ่มกินยาแผงใหม่

วิธีกินยาคุม 28 เม็ดแผงที่ 2:

  1. กินยาแผงแรกครบ 28 เม็ด โดย 21 เม็ดแรกเป็นยาที่มีฮอร์โมน และ 7 เม็ดสุดท้ายเป็นยาหลอก
  2. ในช่วงที่กินยาหลอก 7 เม็ดสุดท้าย จะมีประจำเดือนมา
  3. เริ่มกินยาแผงที่ 2 ในวันถัดไปหลังจากกินยาเม็ดสุดท้ายของแผงแรก
  4. กินยาแผงที่ 2 วันละ 1 เม็ด ตามลูกศรที่ระบุบนแผงยา
  5. กินยาทุกวันในเวลาเดียวกัน

ข้อดีของยาคุม 28 เม็ดคือไม่มีการหยุดพัก ทำให้ไม่ต้องจำว่าเมื่อไหร่ควรเริ่มกินยาแผงใหม่ ลดความเสี่ยงที่จะลืมเริ่มกินยาแผงใหม่ได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ยังคงต้องกินยาให้ตรงเวลาทุกวันเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

เวลาที่เหมาะสมในการกินยา

การกินยาคุมกำเนิดในเวลาเดียวกันทุกวันเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาระดับฮอร์โมนในร่างกายให้คงที่ ซึ่งจะช่วยให้การป้องกันการตั้งครรภ์มีประสิทธิภาพสูงสุด ผู้ใช้ควรเลือกเวลาที่สะดวกและง่ายต่อการจดจำ เพื่อลดโอกาสที่จะลืมกินยา

เวลาที่แนะนำในการกินยาคุมกำเนิดมีดังนี้

  • ช่วงเช้าหลังตื่นนอน: เหมาะสำหรับผู้ที่มีกิจวัตรประจำวันที่แน่นอน
  • ช่วงอาหารกลางวัน: เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานประจำและมีเวลาพักกลางวันที่แน่นอน
  • ช่วงก่อนนอน: เหมาะสำหรับผู้ที่มักมีอาการคลื่นไส้หลังกินยา เนื่องจากการนอนหลับจะช่วยลดอาการคลื่นไส้ได้

นอกจากนี้ การตั้งเตือนบนโทรศัพท์มือถือหรือนาฬิกา การวางยาไว้ในที่ที่มองเห็นได้ง่าย หรือการเชื่อมโยงการกินยากับกิจวัตรประจำวัน เช่น การแปรงฟัน การล้างหน้า หรือการดื่มกาแฟ จะช่วยเตือนให้ผู้ใช้กินยาตรงเวลาได้

ข้อควรระวังเมื่อกินยาคุมแผงที่-2

ข้อควรระวังเมื่อกินยาคุมแผงที่ 2

วิธีกินยาคุมแผงที่ 2 และแผงต่อๆ ไปมีข้อควรระวังหลายประการที่ผู้ใช้ควรทราบ เพื่อให้การใช้ยาคุมมีประสิทธิภาพสูงสุดและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง ข้อควรระวังเหล่านี้รวมถึงการจัดการกับการลืมกินยา การรับมือกับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น และการรู้ว่าเมื่อใดควรปรึกษาแพทย์ การมีความรู้และเข้าใจเกี่ยวกับข้อควรระวังเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ยาคุมได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

การลืมกินยาและวิธีแก้ไข

การลืมกินยาคุมกำเนิดเป็นปัญหาที่พบบ่อย ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ วิธีการแก้ไขจะแตกต่างกันไปตามจำนวนเม็ดยาที่ลืมกินและช่วงเวลาที่ลืมกิน

กรณีลืมกินยาคุมเพียง 1 เม็ด

  1. กินยาทันทีที่นึกได้ แม้ว่าจะต้องกินยาเพิ่มอีก 1 เม็ดในวันเดียวกัน
  2. กินยาเม็ดต่อไปตามเวลาปกติ
  3. ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีคุมกำเนิดแบบอื่นเสริม

กรณีลืมกินยาคุม 2 เม็ดติดต่อกัน

  1. กินยา 2 เม็ดทันทีที่นึกได้
  2. กินยาเม็ดต่อไปตามเวลาปกติ
  3. ใช้วิธีคุมกำเนิดแบบอื่นเสริม เช่น ถุงยางอนามัย เป็นเวลา 7 วัน

กรณีลืมกินยาคุม 3 เม็ดขึ้นไปติดต่อกัน

  1. ทิ้งยาที่เหลือในแผงปัจจุบัน
  2. เริ่มกินยาแผงใหม่ทันที
  3. ใช้วิธีคุมกำเนิดแบบอื่นเสริม เช่น ถุงยางอนามัย เป็นเวลา 7 วัน
  4. หากมีเพศสัมพันธ์ในช่วง 5 วันก่อนหน้านี้ ควรพิจารณาใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน

หากลืมกินยาคุมในช่วงสัปดาห์แรกของแผงยา มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการตั้งครรภ์ได้ ดังนั้นควรใช้วิธีคุมกำเนิดแบบอื่นเสริมเป็นพิเศษ หากลืมกินยาในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของแผงยา ให้ข้ามเม็ดยาหลอกหรือข้ามช่วงหยุดพักและเริ่มกินยาแผงใหม่ทันที

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

การใช้ยาคุมกำเนิดอาจมีผลข้างเคียงในช่วงแรก ซึ่งส่วนใหญ่จะหายไปเมื่อร่างกายปรับตัวได้ ผลข้างเคียงทั่วไป ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน (ซึ่งอาจบรรเทาโดยกินยาพร้อมอาหารหรือก่อนนอน) เจ็บคัดเต้านม (อาจใช้เวลา 2-3 เดือนเพื่อปรับตัว) ปวดศีรษะ (หากรุนแรงควรปรึกษาแพทย์) เลือดออกกะปริดกะปรอย (พบได้ในช่วง 2-3 เดือนแรก) และอารมณ์แปรปรวน (เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน)

นอกจากนี้ยังมีผลข้างเคียงร้ายแรงที่พบได้น้อยแต่ควรระวัง เช่น ลิ่มเลือดอุดตัน (อาการคือ ปวด บวม แดง ร้อนบริเวณขา) โรคหลอดเลือดสมอง (อาการคือ ปวดศีรษะรุนแรง ตาพร่ามัว ชา อ่อนแรง) และโรคหัวใจขาดเลือด (อาการคือ เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก) หากพบอาการรุนแรงเหล่านี้ ควรหยุดยาและปรึกษาแพทย์ทันที

กรณีที่ควรปรึกษาแพทย์

ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาคุมหากมีประวัติโรคหัวใจ ความดันสูง มะเร็ง ลิ่มเลือดอุดตัน โรคตับ ไมเกรนรุนแรง หรืออายุเกิน 35 ปีและสูบบุหรี่ ระหว่างใช้ยา หากพบอาการผิดปกติรุนแรง เช่น ปวดศีรษะมาก ตาพร่า เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก ตัวเหลือง หรือเลือดออกผิดปกติ ให้ปรึกษาแพทย์ทันที การใช้ยาคุมร่วมกับยาปฏิชีวนะ ยากันชัก หรือสมุนไพรบางชนิดอาจลดประสิทธิภาพของยา ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับยาที่ใช้อยู่เสมอ


สรุป

การรู้จัก วิธีการกินยาคุม 21 เม็ดหรือยาคุม 28 เม็ด แผงที่ 2 อย่างถูกวิธีเป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันการตั้งครรภ์ สำหรับยาคุม 21 เม็ด หลังกินยาครบแผงแรก ให้หยุด 7 วันและเริ่มแผงที่ 2 ในวันที่ 8 ส่วนยาคุม 28 เม็ด เมื่อกินหมดแผงแรก ให้เริ่มแผงที่ 2 ในวันถัดไปทันที ทั้งสองชนิดมีประสิทธิภาพสูงหากใช้อย่างถูกวิธี

การกินยาตรงเวลา การแก้ไขกรณีลืมกินอย่างถูกต้อง การเข้าใจผลข้างเคียง และการรู้ว่าเมื่อใดควรปรึกษาเภสัชกร เป็นสิ่งสำคัญในการใช้ยาคุม สามารถปรึกษาเภสัชกรผ่านบริการ Telepharmacy ของ MedCare ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องเดินทางไปพบเภสัชกรด้วยตนเอง ทำให้คุณสามารถเข้าถึงยาและคำปรึกษาด้านสุขภาพได้อย่างสะดวกและปลอดภัยหากมีคำถามหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม MedCare พร้อมให้บริการช่วยเหลือคุณ ปรึกษากับเภสัชกรมืออาชีพผ่าน LINE Mini App  ได้ทันที เพื่อให้คุณมั่นใจวิธีการกินยาคุม 21 เม็ดหรือยาคุม 28 เม็ด แผงที่ 2 อย่างถูกต้องและปลอดภัย

ปรึกษาเภสัชกรออนไลน์