Latest Articles

ออฟฟิศซินโดรม โรคฮิตที่คนทำงานออฟฟิศต้องเจอ

ในยุคที่หลายคนใช้เวลาอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน นั่งทำงานในท่าเดิม ๆ ไม่ค่อยลุกขึ้นขยับตัว หรือใช้เมาส์–คีย์บอร์ดซ้ำ ๆ หลายชั่วโมง – อาจทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า “ออฟฟิศซินโดรม” (Office Syndrome) ซึ่งเป็นกลุ่มอาการทางกล้ามเนื้อและกระดูกที่พบได้บ่อยในวัยทำงาน  

อาการที่เริ่มจากความเมื่อย ตึง อาจลุกลามจนทำให้ใช้ชีวิตประจำวันลำบาก เช่น ปวดคอ บ่า ไหล่ หลัง แขน ข้อมือ นิ้วล็อค หรือแม้กระทั่งมีอาการตึงบริเวณสะบักและสะโพก  

สาเหตุหลักและปัจจัยเสี่ยง

สาเหตุของออฟฟิศซินโดรมมักเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมในการทำงานที่ไม่เอื้อต่อสุขภาพ ได้แก่

  • ท่านั่งที่ไม่ถูกต้อง เช่น หลังโค้ง ไหล่ห่อ คอเอียง หรือจ้องจอคอมพิวเตอร์ในมุมที่ไม่พอดี  
  • ใช้เวลานั่งนิ่ง ๆ นานโดยไม่เปลี่ยนอิริยาบถ เช่น นั่งหลายชั่วโมงโดยไม่ลุกเดินหรือยืดกล้ามเนื้อ  
  • อุปกรณ์หรือเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ได้ออกแบบตามหลัก Ergonomics – เช่น เก้าอี้ / โต๊ะ ทำให้กล้ามเนื้อบางส่วนต้องทำงานหนักเกินไป
  • ความเครียดสะสมหรือร่างกายพักไม่เพียงพอ ซึ่งส่งผลให้กล้ามเนื้อเกิดการเกร็งหรือตึงมากขึ้น

ด้วยเหตุนี้ ออฟฟิศซินโดรมจึงไม่ใช่แค่ “เมื่อย” ธรรมดา หากไม่ดูแลอาจกลายเป็นอาการเรื้อรังได้

อาการที่ควรสังเกต

คนทำงานออฟฟิศควรสังเกตอาการเหล่านี้ หากพบว่ามีอยู่ควรเริ่มดูแลทันที

  • ปวดคอ – บ่า – ไหล่ หรือสะบัก โดยเฉพาะหลังจบวันทำงานหรือในช่วงยาว  
  • ปวดหลังส่วนล่าง หรือมีอาการปวดสะโพกจากการนั่งนาน  
  • มือชาหรือนิ้วล็อค ปวดข้อมือ/อุ้งมือ เนื่องจากใช้งานเมาส์/คีย์บอร์ดอยู่ในท่าหนึ่งนาน ๆ  
  • อาการตึงของกล้ามเนื้อรอบคอ–หลัง ทำให้เกิดปวดศีรษะ หรือตาแห้ง

หากพบว่ามีอาการเหล่านี้บ่อย มากขึ้น หรือลุกลาม ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือนักกายภาพบำบัด

แนวทางการรักษาและดูแล

การดูแลออฟฟิศซินโดรมต้องรวมหลายด้าน ทั้งการปรับพฤติกรรม การยืดกล้ามเนื้อ และการรักษาทางการแพทย์  

  • ปรับท่านั่งให้ถูกต้อง : นั่งหลังตรง มีพนักพิงรองรับ ข้อศอกวางไว้ในระดับที่เหมาะสม จอคอมพิวเตอร์ควรอยู่ระดับสายตาหรือต่ำกว่าเล็กน้อย
  • เปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ : แนะนำให้ลุกเดินหรือยืดกล้ามเนื้อทุก 30-60 นาที เพื่อลดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ
  • ใช้อุปกรณ์ให้เหมาะสม : เก้าอี้ / โต๊ะที่สามารถปรับระดับได้ เมาส์/คีย์บอร์ดที่วางในตำแหน่งที่มือ–ข้อมือไม่ต้องเกร็ง
  • ทำกายภาพบำบัด / ยืดเหยียดกล้ามเนื้อเฉพาะจุด เช่น คอ–บ่า–หลัง เพื่อคลายอาการตึง  
  • พักผ่อนให้เพียงพอ ลด stress และจัดการสภาพแวดล้อมการทำงานให้ดีขึ้น

บทบาทของยา Norgesic

เมื่ออาการของออฟฟิศซินโดรมเริ่มรุนแรงขึ้น เช่น กล้ามเนื้อปวด เกร็ง หรือมีอาการขัดขวางการเคลื่อนไหว แพทย์อาจพิจารณาใช้ยา Norgesic เข้าช่วย โดยมีจุดเด่นดังนี้

  • Norgesic ประกอบด้วย Orphenadrine (ตัวยาคลายกล้ามเนื้อ) และ Paracetamol (ตัวยาลดปวด) ซึ่งช่วยคลายกล้ามเนื้อและบรรเทาอาการปวด
  • มีงานวิจัยระบุว่า คอมบิเนชันแบบนี้ช่วยให้หายได้เร็วขึ้นเมื่อเทียบกับใช้ paracetamol เพียงอย่างเดียว  
  • อย่างไรก็ตาม ยา Norgesic เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการรักษา ไม่ใช่ แทนการปรับพฤติกรรมหรือกายภาพบำบัด  
  • ก่อนใช้ควรปรึกษาแพทย์ เนื่องจากมีข้อควรระวัง เช่น ผู้ที่มีโรคตับ ไต แผลในกระเพาะ หรือใช้ยาอื่นร่วม ควรได้รับคำแนะนำอย่างครบถ้วน  

ดังนั้น หากคุณเป็นคนทำงานออฟฟิศและมีอาการคล้าย Office Syndrome แล้ว การใช้ Norgesic อาจช่วยได้ในช่วงที่อาการรุนแรง แต่ควรใช้ควบคู่กับการปรับพฤติกรรมอย่างจริงจัง


สรุป

ออฟฟิศซินโดรม เป็นโรคฮิตของวัยทำงานที่หลายคนมองข้าม แต่หากละเลยอาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตอย่างจริงจัง ดังนั้น การดูแลตั้งแต่ต้น – ปรับท่านั่ง ขยับร่างกาย ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสม และพักผ่อนให้เพียงพอ – ถือว่าสำคัญมาก

หากอาการเริ่มหนักขึ้น เช่น ปวดมากขึ้น เกร็งมาก ข้อนิ้วล็อค หรือมือชา การปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาการใช้ Norgesic ควบคู่กับการรักษาอื่น ถือเป็นทางเลือกหนึ่ง สามารถปรึกษาเภสัชกรจาก Medcare ร้านยาออนไลน์ 24 ชั่วโมง รับคำปรึกษากับเภสัชกรมืออาชีพผ่าน LINE Mini App  ได้ทันที เพื่อให้คุณมั่นใจวิธีการใช้อย่างถูกต้องและปลอดภัย