เมนส์ไม่มาควรทำอย่างไร เมนส์เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์แบบไหน ปัญหาสุขภาพจากการเมนส์ไม่มา หรือมาไม่ปกตินั้นอาจมีมากกว่าที่คุณคิด ลองทำความรู้จักกับเมนส์ให้ดียิ่งขึ้นก่อนการไขปัญหาที่ว่าเมนส์ไม่มาจะท้องหรือไม่ สามารถตรวจสอบได้อย่างไร
ทำความเข้าใจเรื่องของเมนส์ (ประจำเดือน)เบื้องต้น
ประจำเดือน หรือ เมนส์ คือภาวะที่ผู้หญิงมีเลือดออกจากช่องคลอดเป็นประจำทุกเดือน เพื่อแสดงถึงความพร้อมเมื่ออยู่ในวัยเจริญพันธุ์ เกิดจากฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ที่สร้างเยื่อบุผนังมดลูกหนาขึ้น และหลุดลอกออกเมื่อไม่มีการปฏิสนธิ ซึ่งโดยปกติแล้วผู้หญิงจะมีประจำเดือนทุกๆ 21-35 วัน และมาครั้งละไม่เกิน 7 วัน แต่ในบางครั้งผู้หญิงอาจมีภาวะเมนส์ไม่มา ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ 2 รูปแบบ คือ
- ปฐมภูมิ คือผู้หญิงอายุ 18 ปีแต่ยังไม่มีประจำเดือน
- ทุติยภูมิ คือผู้หญิงที่เคยมีประจำเดือนแล้ว แต่เมนส์ไม่มานานหลายเดือน
แน่นอนว่าการที่ประจำเดือนไม่มายังมีสาเหตุย่อยๆ แตกต่างกันออกไป โดยมีรายละเอียดดังนี้
เมนส์ไม่มาเกิดจากอะไรได้บ้าง ?
1. ตั้งครรภ์
การตั้งครรภ์ เป็นหนึ่งในสาเหตุที่สามารถพบได้บ่อยมากที่สุดเมื่อเมนส์ไม่มา ซึ่งอาการดังกล่าวจะเริ่มต้นตั้งแต่การตั้งครรภ์ในเดือนแรกไปจนถึงช่วงให้นมบุตร โดยถ้าหากคุณต้องการทราบว่าอาการเมนส์ไม่มาเกิดจากสาเหตุนี้หรือไม่ คุณสามารถตรวจครรภ์ได้ด้วยวิธีการต่างๆ ได้แก่
- ผ่านชุดทดสอบการตั้งครรภ์ เป็นวิธีทดสอบการตั้งครรภ์เบื้องต้นที่มีความสะดวก ง่าย และรวดเร็วมากที่สุดเพราะสามารถหาซื้อชุดทดสอบได้ตามร้านค้าทั่วไป เช่น ร้านสะดวกซื้อหรือร้านขายยา โดยแบ่ง 3 รูปแบบ ได้แก่ การจุ่ม การหยด และการปัสสาวะผ่าน
- ผ่านห้องปฏิบัติการ มีลักษณะคล้ายกับการตรวจผ่านชุดทดสอบ แต่การตรวจสอบดังกล่าวเกิดขึ้นที่สถานพยาบาล โดยทางสถานพยาบาลจะเก็บตัวอย่างปัสสาวะ เพื่อนำไปตรวจสอบ และผลลัพธ์ที่ได้ค่อนข้างมีความแม่นยำ
- ผ่านการเจาะเลือด เป็นวิธีทดสอบการตั้งครรภ์ที่มีความแม่นยำมากที่สุด โดยสามารถรู้ผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ 2 สัปดาห์หลังการปฏิสนธิ เพราะเป็นการตรวจจากฮอร์โมนที่อยู่ภายในเลือด
- ผ่านการอัลตราซาวด์ ด้วยการส่งคลื่นสัญญาณไปยังส่วนต่างๆ ของมดลูก ทำให้สามารถรู้ถึงรายละเอียดอื่นๆ ของทารกได้ เช่น ตำแหน่ง อายุครรภ์ จำนวนทารก ฯลฯ
2. เข้าสู่วัยทอง
อีกหนึ่งสาเหตุของอาการเมนส์ไม่มาที่พบได้มากคือ ผู้หญิงเข้าสู่วัยทองหรือวัยหมดประจำเดือน มักเกิดกับผู้หญิงที่มีอายุ 45-55 ปี หรือตั้งแต่อายุ 40 ปี โดยนับเป็นการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ ที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงจึงส่งผลให้ไข่ตกไม่สม่ำเสมอ
3. ฮอร์โมนไม่สมดุล
เมนส์ไม่มาอาจเกิดจากระดับฮอร์โมนภายในร่างกายไม่สมดุล ซึ่งอาจมีที่มาจากเนื้องอกบริเวณต่อมใต้สมองหรือต่อมไทรอยด์ โดยยังรวมไปถึงการมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำ หรือระดับเทสโทสเตอโรนสูงอีกด้วย
4. น้ำหนักเปลี่ยนแปลงมากเกินไป
การที่ผู้หญิงมีน้ำหนักเปลี่ยนแปลงมากเกินไปยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนขาดได้เช่นเดียวกัน โดยจะส่งผลต่อระบบร่างกายคือ
- ผู้ที่มีน้ำหนักลดลงไปมาก มักเกิดจากการรับประทานอาหารน้อยจนไม่มีสารอาหารเข้าไปในร่างกายเพื่อกระตุ้นการไข่ตก
- ผู้ที่มีน้ำหนักมากเกินไป ทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงจนส่งผลต่ออาการเมนส์ไม่มา
5. ออกกำลังกายมากเกินไป
การออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงอาจส่งผลต่อรอบเดือนเช่นกัน เพราะการหักโหมร่างกายมากเกินไปมีโอกาสทำให้ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง และนำไปสู่อาการเมนส์ไม่มาได้ เนื่องจากร่างกายสูญเสียไขมันมากเกินไปนั่นเอง
6.ความเครียด
ความเครียดเป็นปัจจัยที่ทำให้เมนส์ไม่มาได้อย่างน่าตกใจ โดยถ้าหากคุณมีความเครียดมากเกินไปก็อาจส่งให้เกิดอาการปวดท้องเมื่อมีรอบเดือน หรือรอบเดือนมีความผิดปกติ เช่น มามาก มาน้อย ไปจนถึงประจำเดือนขาดหายไป
7. รับประทานยาคุมกำเนิด
เพราะการใช้ยาคุมทั้งแบบที่มีโปรเจสเตอโรนอย่างเดียว ยาคุมแบบฉีด หรือห่วงอนามัยชนิดที่มีฮอร์โมน จะส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนภายในร่างกายได้ ดังนั้นถ้าหากคุณมีการรับยาคุมก็อาจทำให้ประจำเดือนขาดหายหรือมีความผิดปกติได้ และเมื่อคุณหยุดการใช้ยาคุมก็จะทำให้ประจำเดือนกลับมาเป็นปกติเช่นเดิม
8. มีภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ
คือภาวะที่ผู้หญิงมีถุงน้ำรังไข่หลายใบ จะทำให้ถุงไม่ปล่อยไข่ตกจนกระทบต่ออาการเมนส์ไม่มาในที่สุด
9. ปัญหาอื่นๆ
นอกจากนี้ ประจำเดือนขาดหายยังอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น รังไข่เสื่อมก่อนกำหนด ท้องนอกมดลูก ป่วยเป็นโรคทางพันธุกรรม หรือปัญหาทางสุขภาพอื่นๆ เป็นต้น
การดูแลตนเองเมื่อเมนส์ไม่มา
เมื่อคุณผู้หญิงท่านใดมีอาการเมนส์ไม่มา สามารถแก้ไขได้เบื้องต้นด้วยการดูแลตนเองอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ดังนี้
- ลดความเครียด เพิ่มความผ่อนคลายมากขึ้น
- รับประทานอาหารที่ครบถ้วนและเหมาะสม
- รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
การรักษาที่เกี่ยวข้อง
เมื่อคุณดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองแล้ว แต่ยังมีปัญหาประจำเดือนขาด ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบสาเหตุและรักษา โดยถ้าหากพบสาเหตุของปัญหาเมนส์ไม่มาที่เกิดจากระบบร่างกาย แพทย์จะรักษาอาการดังกล่าวด้วยวิธีที่หลากหลายขึ้นอยู่กับสาเหตุ เช่น
- ฮอร์โมนไม่สมดุล ให้ฮอร์โมนเสริมหรือฮอร์โมนสังเคราะห์ เพื่อปรับระดับฮอร์โมนให้เป็นปกติ
- ถุงน้ำรังไข่หลายใบ จ่ายยาคุมกำเนิดแบบเม็ด หรือยาที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน
- รังไข่เสื่อมก่อนกำหนด รักษาด้วยยาคุมกำเนิดแบบเม็ดหรือกลุ่มยาฮอร์โมนทดแทน
- ต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป จ่ายยาที่ช่วยหยุดการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ของต่อมไทรอยด์
สรุป
อาการเมนส์ไม่มา เป็นปัญหาที่ผู้หญิงจำเป็นต้องใส่ใจอย่างสม่ำเสมอ เพราะประจำเดือนสามารถบ่งบอกได้ถึงสภาพร่างกายของผู้หญิงทุกคน ดังนั้นถ้าหากประจำเดือนมาผิดปกติและได้ปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้นแล้ว แต่ยังมีอาการอยู่คุณควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบถึงสาเหตุและรักษาอย่างถูกต้อง
Medcare พร้อมให้คำปรึกษาเบื้องต้นสำหรับผู้หญิงที่เมนส์ไม่มา เพื่อช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างตรงจุด เพียงแค่ Add LINE https://liff.line.me/1656211307-YZBwnXVm หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://medcare.asia/ เราพร้อมจัดหายาจากร้านยาใกล้ภายส่งถึงมือคุณใน 1 ชั่วโมงเท่านั้น